น้ํา หวานเฮลบลูบอย  เปิดประวัติ เฮลซ์บลูบอย (Hale’s Blue Boy) แบรนด์น้ำหวานของไทย ที่เติบโต มีกำไรเป็นพันล้าน ด้วยพระเอกเพียงคนเดียวและเมื่อพูดถึงแบรนด์น้ำหวานยอดนิยมของคนไทย ชื่อหนึ่งที่มักนึกถึง นั่นคือ “เฮลซ์บลูบอย (Hale’s Blue Boy)” แบรนด์น้ำหวานคู่คนไทย ที่อยู่มานานกว่า 6 ทศวรรษ มีรายได้แต่ละปีเป็นจำนวนไม่น้อย และยังมีลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่ได้โหมทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์หนักเท่าสินค้าอื่น ๆน้ำหวาน หนึ่งในของคู่คนไทยที่เติมความสดชื่นให้กับผู้คนมาแล้วทุกยุคสมัย ตั้งแต่รูปของน้ำหวานแบบชงดื่ม และของหวานสุดยอดนิยม “น้ำแข็งไส” ที่นิยมอย่างมากในช่วงหน้าร้อนของทุก ๆ ปี

เจ้าของสโลแกน ‘หวานชื่น รื่นรมณ์’ ป็นเหมือนน้ำหวานคู่ครัวคนไทย ที่เรียกได้ว่าแทบทุกบ้านต้องมี หันไปมุมห้องครัวจะต้องเจอ ช่วงอากาศร้อน ๆ ได้น้ำเย็นซักแก้วแล้วเติมน้ำหวานเข้าไปซักหน่อย แค่คิดก็ชื่นใจสุด ๆ แต่ว่าน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยนั่นเอามาทำได้มากกว่าการนำมาชงน้ำเปล่าแน่นอน เพราะมีทั้งความหวาน และความหอมของหลากหลายรสชาติให้เลือกถึง 9 รสชาติทั้ง กลิ่นสละ, ครีมโซดา, สับปะรด, องุ่น, สตรอว์เบอร์รี, แคนตาลูป, ซาสี่, มะลิ และกุหลาบ (แม้หลาย ๆ คนจะมีภาพจำแค่น้ำเขียวและน้ำแดง) ทำให้เราสามารถนำน้ำหวานจากเฮลซ์บลูบอยมาประยุกต์เป็นเมนูได้หลากหลายในวันนี้เราจึงจะมาแจกสูตรเมนูคลายร้อนง่าย ๆ แต่อร่อยมากจากเฮลซ์บลูบอยให้กับทุกคนกัน จะมีเมนูไหนที่น่าทานบ้างนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ

น้ํา หวานเฮลบลูบอย  จุดเริ่มต้น “เฮลซ์บลูบอย”

น้ํา หวานเฮลบลูบอย  เรื่องราวของแบรนด์น้ำหวานแบรนด์นี้ เริ่มต้นเมื่อปี 2502 จากการมองเห็นโอกาสและการคิดค้นโดย พี่น้อง 4 คนแห่งตระกูลพัฒนะเอนก ซึ่งขณะนั้นยังทำร้านโชห่วย และเห็นช่องว่างของธุรกิจนี้ เพราะยังมีน้อยมากในตลาดเมืองไทยจึงได้เริ่มพัฒนาสูตรน้ำหวาน และวางขายที่ร้านของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่า สินค้าขายดีอย่างมาก จึงมองเห็นโอกาสใหม่ นั่นคือ การสร้างแบรนด์ ซึ่งเฮลซ์บลูบอย ถิอเป็นแบรนด์น้ำหวานลำดับแรก ๆ ของไทยที่สร้างแบรนด์และมีเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน และกลายมาเป็นน้ำหวาน “เฮลซ์บลูบอย” ที่ทุกคนชื่นชอบมาจนถึงตอนนี้

กระทั่งปี 2521 เริ่มจดทะเบียน บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายน้ำหวานเข้มข้น และน้ำตาลก้อนสำหรับใช้กับเครื่องดื่มกาแฟหนึ่งในภาพจำสำคัญของแบรนด์นี้ คือ ตัวอักษรและรูปเจ้าหนูบลูบอยที่เป็นโลโก้สำคัญของแบรนด์ ซึ่งทำมาจากการสลักบนแผ่นไม้ด้วยมือทั้งหมด ไม่ได้ผ่านการออกแบบจากคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด ทำให้ได้เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และยากต่อการเลียนแบบด้วยเช่นกัน

น้ำหวาน “ขวดแก้ว”

อีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญของ “เฮลซ์บลูบอย” คือ การใช้ขวดแก้วเป็นบรรจุภัณฑ์ ซึ่งช่วยให้น้ำหวานมีอายุการเก็บรักษาที่นานกว่าเดิม นอกเหนือจากการใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและสิ่งที่แบรนด์คิด ก็ไม่ได้อนุมานหรือจินตนาการขึ้นมาเอง เพราะมี ข้อมูลยืนยัน ว่า การใช้ขวดแก้ว ช่วยให้คุณภาพของน้ำหวานหรือน้ำเชื่อมต่าง ๆ คงอยู่ได้นานกว่าการใช้ขวดพลาสติก เนื่องจากออกซิเจนสามารถซึมผ่านขวดพลาสติก และทำปฏิกิริยาต่อน้ำหวานหรือน้ำเชื่อมที่บรรจุภายในขวดพลาสติก ซึ่งจะทำให้สีของน้ำหวาน-น้ำเชื่อมมีความเข้มขึ้น และมีผลต่อรสชาติอีกด้วยอีกหนึ่งความเจ๋งของน้ำหวาน คือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องแนะนำหรืออธิบายการใช้งานให้มากมาย เพราะสามารถใช้ชงกับน้ำดื่มหรือโซดา เป็นเครื่องดื่มเย็น ๆ ชื่นใจได้เลย หรือจะหยิบมาครีเอตเป็นเมนูของหวานต่าง ๆ ได้ตามใจ

สำหรับเมนูจากน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยเมนูแรกนี้ เชื่อว่าน่าจะเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ ซึ่งวิธีในการทำนั้นก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่นำน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยสีแดงรสสละมาผสมกับน้ำโซดาเย็น ๆ ในอัตราส่วน 1 : 4 แล้วจากนั้นเติมความเปรี้ยวสดชื่นด้วยน้ำมะนาวตามชอบ ก่อนจะคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วเทลงไปในแก้วน้ำแข็งบดพูน ๆ หรือจะเสิร์ฟแบบแยกชั้นสีด้วยการไม่คนก็ดูสวยงามน่าทานไปอีกแบบ นอกจากนี้คุณอาจจะสร้างกิมมิคเล็ก ๆ อย่างการเสิร์ฟในธีมค็อกเทลแบบไร้แอล ด้วยการใส่ในน้ำแดงมะนาวโซดาแก้วค็อกเทล แล้วฝานมะนาวมาประดับบนขอบแก้วสวย ๆ ก็ช่วยให้เครื่องดื่มดูหรูหรายิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มสุดสดชื่นที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ

ส่อง Line-Up ความหวานของ “เฮลซ์บลูบอย”

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ เฮลซ์บลูบอย มีเพียง 2 ตัวเท่านั้น คือ น้ำหวานเข้มข้น และน้ำตาลก้อนโดยน้ำหวานเข้มข้น เพียงผลิตภัณฑ์เดียว มีมากถึง 9 กลิ่น คือ ครีมโซดา องุ่น มะลิ สับปะรด กุหลาบ สละ ซาสี่ สตรอว์เบอรี่ และแคนตาลูป แต่กลิ่นที่นิยมที่สุดของหลาย ๆ ครัวเรือน คงหนีไม่พ้น กลิ่นสละ และกลิ่นครีมโซดาและน้ำหวานเข้มข้น ก็เป็นสินค้าพระเอกของแบรนด์ ที่ยังขายดีเป็นล่ำเป็นสัน ทำกำไรให้บริษัทต่อปีมากถึงหลักพันล้านบาทนอกจาก น้ำหวานเข้มข้น ที่เป็นพระเอกของแบรนด์นี้แล้ว

เฮลซ์บลูบอย ยังมีผลิตภัณฑ์น้ำตาลก้อนที่ใช้กับกาแฟอีกด้วยเรียกว่าเป็นแบรนด์น้ำหวานไทยในตำนานที่อยู่คู่กับคนไทยมามากกว่า 40 ปี อีกทั้งเราเชื่อว่าหลายๆ คนก็คือจะเคยได้ดื่มได้ลองชิมน้ำหวานแบรนด์นี้มากันบ้างแล้ว ซึ่งน้ำหวาน เฮลซ์บลูบอย ที่เราคุ้นตาและเห็นกันบ่อยๆ นั่นก็คองเป็น น้ำแดง กับน้ำเขียว กันแน่ๆ แต่ต้องบอกเลยว่าแบรนด์นี้เขามีให้ลองชิมกันถึง 9 สีเลยนะ เคยลองกันครบทุกสีรึยังล่าสุด เฮลซ์บลูบอย เปิดตัวน้ำหวานเข้มข้นกลิ่นใหม่ กลิ่นบลูฮาวาย พร้อมกับภาพยนตร์โฆษณาโปรโมตสินค้าดังกล่าว โดยชูจุดขายความเป็นน้ำหวานสำหรับการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่สามารถชงเป็นเครื่องดื่มเย็นและเครื่องดื่มโซดา เพื่อเติมความสดชื่น โดยแบรนด์ระบุว่า จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป ที่บิ๊กซี ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ของบิ๊กซี  น้ํา หวานเฮลบลูบอย